- ดาวเนปจูน

ดาวเนปจูน (Neptune)
ดาวเนปจูนถูกค้นพบหลังจากการค้นพบดาวยูเรนัส โดยนักดาราศาสตร์พบว่าวงโคจรของดาวยูเรนัสมิได้เป็นไป ตามกฎของนิวตัน   จึงทำให้เกิดการพยากรณ์ว่าจะต้องมีดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งที่อยู่ไกลถัดออกไปมารบกวนวงโคจรของดาวยูเรนัส   ดาวเนปจูนถูกเยี่ยมเยือนโดยยานอวกาศเพียงลำเดียวคือ วอยเอเจอร์ 2
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2532  เกือบทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับดาวเนปจูนมาจากการเยี่ยมเยือนในครั้งนี้    เนื่องจากวงโคจรของ ดาวพลูโต เป็นวงรีมาก  ในบางครั้งจะตัดกับวงโคจรของเนปจูน ทำให้เนปจูนเป็น
ดาวเคราะห์ซึ่งอยู่ไกลที่สุดในบางปี  ดาวเนปจูนมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับยูเรนัส คือ รูปแบบของน้ำแข็ง
มีไฮโดรเจน 15% และฮีเลียมจำนวนเล็กน้อย   ดาวเนปจูนแตกต่างกับดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์  ตรงที่ไม่มีการแบ่งชั้นภายในที่ชัดเจน เรารู้เพียงว่ามีแกนกลางที่มีขนาดเล็ก (มีมวลประมาณเท่าโลก) ดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงินเช่นเดียวกับดาวยูเรนัส เพราะในชั้นบรรยากาศมีก๊าซมีเทนเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย
ในช่วงเวลาที่ยานวอยเอเจอร์เข้าใกล้ดาวเนปจูน  ได้ภาพถ่ายที่มีสิ่งสะดุดตา คือ จุดดำใหญ่ทางซีกใต้ของดาว มีขนาดใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของจุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัสบดี (ประมาณเท่ากับเส้นผ่านศูนย์กลางของโลก)  จุดดำใหญ่นี้เป็นศูนย์กลางพายุเช่นเดียวกับจุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัสบดี  มีทิศทางกระแสลมพัดไปทางตะวันตก ด้วยความเร็ว 300 เมตร/วินาที

วงแหวน และดวงจันทร์บริวาร

                ดาวเนปจูนมีวงแหวนอยู่ 4 วง และมีความสว่างไม่มากนัก เพราะประกอบด้วยอนุภาคที่เป็นผงฝุ่นขนาดเล็ก จนถึงขนาดประมาณ 10 เมตร  เช่นเดียวกับวงแหวนของดาวพฤหัสบดีและดาวยูเรนัส ภาพถ่ายจาก
ยานวอยเอเจอร์แสดงให้เห็นถึงวงแหวนหลัก 2 วง และวงแหวนบางๆ อยู่ระหว่างวงแหวนทั้งสอง  
ดาวเนปจูนมีดวงจันทร์บริวารที่ค้นพบแล้ว 8 ดวง  โดยมีดวงจันทร์ชื่อ “ทายตัน” (Triton) เป็นบริวาร
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในบรรดาดวงจันทร์บริวารทั้ง 8 ดวง ทายตันมีวงโคจรที่สวนทางกับการหมุนรอบตัวเองของดาวเนปจูน  นักดาราศาสตร์คาดว่า ทายตันจะโคจรเข้าใกล้ดาวเนปจูนเรื่อยๆ และพุ่งเข้าชนดาวเนปจูน
ในที่สุด (อาจใช้เวลาถึง 100 ล้านปี) ฉายาของดาวเนปจูน คือ  เทพเจ้าแห่งท้องทะเล
ดาวเคราะห์น้อย
ดาวเคราะห์น้อย (Asteroids หรือ Minor planets) เกิดขึ้นในยุคที่เกิดระบบสุริยะเมื่อ 4,600 ล้านปีที่แล้ว   ปัจจุบันมีวัตถุที่นักดาราศาสตร์ได้สังเกตพบและตั้งชื่อไว้อยู่ถึง 20,000 ดวง   มีวัตถุที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 100 กิโลเมตร อยู่ประมาณ 200 ดวง ที่เหลือเป็นอุกกาบาตขนาดเล็กมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 กิโลเมตร ดาวเคราะห์น้อยโดยทั่วไปมีรูปร่างไม่แน่นอนและเต็มไปด้วยหลุมบ่อ แถบดาวเคราะห์น้อย (Asteroid Belt) พบอยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี  สันนิษฐานว่าเกิดมาพร้อม ๆ กับดาวเคราะห์
ดวงอื่นๆมีทฤษฎีหนึ่งอธิบายว่าดาวเคราะห์น้อยในบริเวณนี้ไม่สามารถรวมตัวกันเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากถูกรบกวนโดยแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลของดาวพฤหัสบดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น